วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

ทางรถไฟสายมรณะ

ทางรถไฟสายมรณะหรือ ทางรถไฟสายพม่า ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านจังหวัดกาญจนบุรีข้ามแม่น้ำแควใหญ่ โดยสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไปทางทิศตะวันตกจนถึงด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อให้ถึงปลายทางที่เมืองทันบูซายัด ประเทศพม่าทางรถไฟสายมรณะมีความยาวจากหนองปลาดุกถึงสถานีทันบูซายัดรวม 415 กิโลเมตร เป็นทางรถไฟอยู่ในเขตประเทศไทยประมาณ 303.95 กิโลเมตร และอยู่ในเขตพม่า 111.05 กิโลเมตร มีสถานีจำนวน 37 สถานี ทางรถไฟสายนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชียที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้าง เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตก ระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเดินรถบนเส้นทางนี้ทุกวันและจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ - น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากคือช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแคว และช่วงโค้งมรณะหรือถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร
ประวัติ
ทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นขอยืมเงินจากรัฐบาลไทย จำนวน 4 ล้านบาท การก่อสร้างใช้เวลาในการสร้างเสร็จเพียง 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2485 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2486 เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า หลังสงครามทางรถไฟบางส่วนถูกรื้อทิ้ง บางส่วนจมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทางรถไฟสายนี้ถือเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้น เนื่องจากน้ำพักน้ำแรงของการบุกเบิกก่อสร้าง เป็นของทหารเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มา
เหตุที่ทางรถไฟสายนี้ได้ชื่อว่า ทางรถไฟสายมรณะ ก็เพราะว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดีย อีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า เพื่อลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกำลังพล เพื่อจะไปโจมตีพม่าและอินเดียต่อไป ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ เส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ทางรถไฟสายนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2486 และเปิดใช้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปีเดียวกัน
หลังสิ้นสุดสงครามรัฐบาลไทยได้จ่ายเงินจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อซื้อทางรถไฟสายนี้ [1]จากอังกฤษ และทำการซ่อมบำรุงบางส่วนของเส้นทางดังกล่าว เพื่อเปิดการเดินรถตั้งแต่สถานีหนองปลาดุกจนถึงสถานีน้ำตก โดยอยู่ในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน
เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นอนุสรณ์ของโลกที่จารึกความโหดร้ายทารุณของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามด้วย
การท่องเที่ยว
สะพานถ้ำกระแซ
ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก โดยเฉพาะบริเวณถ้ำกระแซ ที่เส้นทางรถไฟจะลัดเลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย ปัจจุบันทางรถไฟสายนี้สุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตก ระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร
การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดบริการเดินรถไฟขบวนปกติ ธนบุรี - น้ำตก ทุกวัน และจัดขบวนพิเศษสายกรุงเทพ - น้ำตกไทรโยคน้อย ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือ 1690


วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

10 อุทยานแห่งชาติทะเลไทย น่าเที่ยว ที่สุด

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด  :  ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2525
    
01
    
     อยู่ห่างจากอำเภอเมืองตราด ไปทางทิศตะวันตก 17 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฝั่งทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะภูเก็ต เกาะแห่งนี้มีความสวยงามตามธรรมชาติครบทั้งทะเล ป่าเขา น้ำตก รอบ ๆ เกาะช้างประกอบไปด้วยหาดทรายต่าง ๆ อาทิ หาดทรายขาว เป็นหาดที่มีทรายขาวละเอียดสมชื่อ นักท่องเที่ยวมักจะมาพักผ่อนอยู่ที่หาดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เรียกได้ว่าเป็นหาดแรกที่ได้รับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมาก่อนหาดอื่น ๆ  หาดคลองพร้าว  อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะช้าง ต่อจากหาดทรายขาว มีแนวชายหาดทอดยาว สามารถเล่นน้ำได้ และร่มรื่นไปด้วยทิวต้นมะพร้าวที่เรียงรายจนได้ชื่อว่าคลองพร้าว หาดไก่แบ้ อยู่  ต่อจากหาดคลองพร้าว เป็นหาดที่มีความสงบ ไม่พลุกพล่าน  เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบหาดที่มีความเป็นส่วนตัว ส่วนน้ำตกที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ น้ำตกคลองพลู  น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของเกาะช้าง อยู่ใกล้กับหาดคลองพร้าว นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมน้ำตกแห่งนี้ได้ตลอดปี น้ำตกมีลักษณะเป็นสายเดียวทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร ข้างล่างเป็นแอ่งน้ำสามารถลงเล่นน้ำได้ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จมาประพาสที่นี่เมื่อครั้งอดีตกาล

 

อ่าวนาง กระบี่




ทะเลไทย มรดกโลก

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

10 ชายหาดทั่วโลกที่น่าไปเยือน

10 อันดับทะเลน่าเที่ยวที่สุดในโลก Summer นี้ เจ้าค่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

1. Las Islas Cies, Galicia, Spain         


          หากกล่าวถึงท้องทะเลที่สวยงามในประเทศสเปนแล้ว Las Islas Cies เห็นจะเป็นอันดับหนึ่งที่ใคร ๆ ต่างนึกถึง เพราะทะเลแห่งนี้ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นอัญมณีแห่งทะเลเมดิเตอริเนียน ด้วยน้ำทะเลสีมรกต และหาดทรายสีขาวนุ่ม คือความงดงามที่ยากจะหาคำบรรยายของท้องทะเลแห่งนี้ ซึ่งนี่ทำให้นักท่องเที่ยวคนแล้วคนเล่าประทับใจจนอยากจะกลับมาย่ำเท้าบนหาดทรายขาวอีกครั้ง และอีกครั้ง

          Las Islas Cies หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ชายหาดแคริเบียน" เป็นอุทยานแห่งชาติเก่าแก่ของประเทศสเปน แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวไปพักผ่อนได้เฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น หากใครได้มาเยือนที่นี่ คุณสามารถตั้งแคมป์เล็ก ๆ อยู่ท่ามกลางทิวสนสวย และชื่นชมความงดงามแห่งท้องทะเลได้อย่างเต็มตา

2.อุทยานแห่งชาติ Tayrona โคลัมเบีย

          อุทยานแห่งชาติ Tayrona ชายหาดที่ทอดตัวยาวไปตามชายฝั่งแคริบเบียน ใกล้กับ Santa Marta โคลัมเบีย เป็นอุทยานแห่งชาติติดทะเลที่ได้รับการยอมรับว่า มีชายหาดงดงามมากที่สุดในอเมริกาใต้ ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวจากทิวทัศน์ทางทะเล ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเก็บความสุขกลับไปเต็มกระเป๋าเลยทีเดียว

          ชายหาดที่นี่มีเปลยวนให้เช่า และเต๊นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะนอนพักค้างคืน แถมยังโต้คลื่นได้อีกด้วย แต่ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะทะเลจะมีคลื่นสูงและแรง และสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ การเช่าเปลยวนมานอนดูทะเลดาวตอนกลางคืนใต้ต้นปาล์ม เปลี่ยนบรรยากาศจากทะเลสดใสให้เป็นทะเลสุดแสนโรแมน อ้อ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชนพื้นเมือง ที่นี่ก็มีไกด์ท้องถิ่นไว้บริการ โดยจะพาคุณไปชมวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่รอบ ๆ อุทยานแห่งชาติ
3. Porto da Barra บราซิล


          Porto da Barra ตั้งอยู่ใน Salvador เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศบราซิล ที่ไม่เพียงแต่จะขึ้นชื่อด้านความงดงามของท้องทะเล แต่ยังเป็นชายหาดที่เงียบสงบอีกด้วย ที่ทะเลแห่งนี้ คุณจะสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของชาวประมง หรือจะดำน้ำดูโลกใต้ทะเล หรืออาจจะเล่นกีฬาชายหาดอย่างวอลเลย์บอลชายหาดได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากใครชื่นชอบเล่นน้ำทะเลล่ะก็ ที่นี่ดูจะเหมาะมาก ๆ เพราะเป็นชายหาดที่คลื่นลมสงบ กระแสน้ำค่อนข้างนิ่ง ปลอดภัยสำหรับการเล่นน้ำ

4. ชายหาดใน Palawan ฟิลิปปินส์


          Palawan นอกจากจะเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์แล้ว ยังเป็นหมู่เกาะที่สวยงามที่สุดของฟิลิปปินส์อีกด้วย เพราะมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่น่าสัมผัสมากมาย ได้แก่ ป่าฝน ปะการัง ถ้ำ ความสมบูรณ์ของป่าโกงกาง และที่โดดเด่นที่สุดคือ หาดทรายขาวสะอาดที่โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวบริสุทธิ์ และภาพพระอาทิตย์ดวงกลมโตในช่วงเวลาเย็นย่ำ ที่จะทำให้คุณเก็บมันไว้ในความทรงจำไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

5. เกาะแซนซีบาร์ แทนซาเนีย


          เกาะแซนซิบาร์ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่สวยงาม ด้วยทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ย่ำ ทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบการนอนอาบแดดบนยิ่งนัก รวมถึงการดำน้ำดูปะการัง อย่างไรก็ตาม นอกจาก เกาะแซนซิบาร์ จะมีความงดงามของหาดทรายขาวแล้ว ยังมีฉายาว่า เกาะเครื่องเทศ เพราะเป็นแหล่งของเครื่องเทศมากมาย เช่น อบเชย วานิลลา กระวาน พริกไทย และเครื่องเทศอื่น ๆ ให้คุณได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
6. Arambol, Goa อินเดีย


          Arambol กัว แห่งอินเดีย นับเป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบสงบ ๆ ท่ามกลางวิถีชีวิตของชุมชนชาวกัว แม้หาดทรายจะไม่ละเอียด และน้ำทะเลอาจไม่เขียวมรกตอย่างทะเลอันดามัน แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเรียนรู้วิถีชีวิตแบบอินเดีย ๆ ก็ไม่ควรพลาดกับหาดทรายเงียบสงบแห่งนี้
7.  ชายหาด Whitehaven เกาะ Whitsunday เมือง Queensland ออสเตรเลีย


          Whitehaven ถือได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทะเลเป็นที่สุด เพราะชายหาดที่นี่ขาวไปด้วยทรายเม็ดละเอียดนุ่มเท้า และน้ำทะเลใส มีป่าเขตร้อนแทรกตัวอยู่ท่ามกลางทะเลผืนสวย หากคุณมาที่นี่แล้วรับรองว่าจะได้เก็บภาพความประทับใจกลับไปบ้านอย่างมากมาย

          แต่มีข้อแนะนำสำหรับการมาท่องเที่ยวที่นี่ คือ คุณควรมีเวลากับการท่องเที่ยวมากหน่อย ประมาณ 4-5 วัน เพื่อที่คุณจะได้ทำกิจกรรมทางทะเลต่าง ๆ นานา ได้อย่างเต็มอิ่ม ทั้งอาบแดด ว่ายน้ำ ปีนเขา เดินป่า หรือโต้คลื่น แถมตอนกลางคืนยังมีแสงไฟเล็ก ๆ ประดับประดาไปทั่วหาด สร้างความโรแมนติกให้คุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

8. Shell Beach, Isle of Purbeck, Dorset


          Shell Beach อาจจะไม่ใช่ชายหาดที่สวยงามที่สุดในอังกฤษ แต่มันก็สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนมานักต่อนัก ชายหาดที่นี่เป็นชายหาดที่ครึกครื้น และหากคุณเป็นอีกคนที่ชอบความสนุกสนานบนชายหาดอย่างการเล่นกีฬาชายหาด หรืออาบแดดล่ะก็ ที่นี่เหมาะกับคุณมาก ๆ

9. Sinclair's Bay, Caithness


          Sinclair's Bay ห่างจากสก๊อตแลนด์ไปทางใต้เพียงแค่ 8 ไมล์ เป็นอีกหนึ่งหาดทรายที่น่าไปเยือน เพราะเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น เม็ดทรายบนชายหาด และน้ำทะเล จะสะท้อนกับดวงอาทิตย์งดงามจนทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในทะเลแคริบเบียนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถัดจากชายหาดไปเพียงไม่ถึงกิโลเมตร คุณยังสามารถสัมผัสกับความเก่าแก่ของปราสาทโบราณสมัยคริสตวรรษที่ 16 ได้อีกด้วย

10. Aroa, Aitutaki, One Foot Island, Cook Islands

          Cook Islands มีชื่อเรื่องชายหาดงดงามและเงียบสงบในแปซิฟิกใต้ โดยเฉพาะชายหาด Aroa สวยงามอย่าบอกใคร คุณสามารถดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น รวมไปถึงการตกปลาในทะเลสาบที่ซ่อนตัวอยู่ในเกาะ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ สวรรค์ของนักตกปลาได้เลยก็ว่าได้


และนี่คือ 10 ชายหาด สวย ๆ จากทั่วโลกที่เราเอามาฝากกันค่ะ... เพื่อนๆ